เมนู

พึงถามถึงมูล (วาระที่ 8)
เพราะปรารภขันธ์ทั้งหลาย ที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตต-
ธรรม, โลภะ และขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัสและปฏิฆะ ขันธ์ทั้งหลาย
ที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
พึงถามถึงมูล (วาระที่ 9)
เพราะปรารภขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตต-
ธรรม และโลภะ ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ ขันธ์ทั้งหลาย
ที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ขันธ์ทั้งหลายที่
สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ ย่อมเกิดขึ้น.

3. อธิปติปัจจัย


[548] 1. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตต-
ธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย

มี 2 อย่าง คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ และ สหชาตาธิปติ
ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่
เพราะกระทำขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรมให้เป็นอารมณ์
อย่างหนักแน่น ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่
อธิปติธรรมที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย.

2. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตต-
ธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย
มี 2 อย่าง คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ และ สหชาตาธิปติ
ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่
เพราะกระทำขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรมให้เป็นอารมณ์
อย่างหนักแน่น โลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่
อธิปติธรรมที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย.
อธิปติธรรมที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม เป็น
ปัจจัยแก่โลภะ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย.
อธิปติธรรมที่สหรคตด้วยโทมนัส เป็นปัจจัยแก่ปฏิฆะ และจิตตสมุฏ-
ฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย.
3. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตต-
ธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย

มี 2 อย่าง คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ และ สหชาตาธิปติ
ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่
เพราะกระทำขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรมให้เป็นอารมณ์
อย่างหนักแน่น ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม
และโลภะ ย่อมเกิดขึ้น.

ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่
อธิปติธรรมที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม เป็น
ปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย, โลภะ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วย
อำนาจของอธิปติปัจจัย.
อธิปติธรรมที่สหรคตด้วยโทมนัส เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย,
ปฏิฆะ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย.
4. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตต-
ธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย

มี 2 อย่าง คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ และ สหชาตาธิปติ
ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่
บุคคลให้ทาน ฯลฯ ศีล ฯลฯ อุโบสถกรรมแล้ว ฯลฯ กระทำกุศล
กรรมนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว พิจารณา.
บุคคลกระทำกุศลกรรมทั้งหลาย ที่เคยสั่งสมไว้แล้วในกาลก่อนให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว พิจารณา.
บุคคลออกจากฌาน กระทำฌานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว
พิจารณา.
พระอริยะทั้งหลาย ออกจากมรรค กระทำมรรคให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่นแล้วพิจารณา, กระทำผลให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น แล้วพิจารณา,
กระทำนิพพานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น แล้วพิจารณา.
นิพพาน เป็นปัจจัยแก่โคตรภู, แก่โวทาน, แก่มรรค, แก่ผล, ด้วย
อำนาจของอธิปติปัจจัย.

บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะกระทำจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม และโลภะให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
ครั้นกระทำจักษุเป็นต้นนั้น ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว ราคะที่เป็น
คันถวิปปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่
อธิปติธรรมที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย
5. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตต-
ธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย

มีอย่างเดียว คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่
ทาน ฯลฯ ศีล ฯลฯ อุโบสถกรรม ฯลฯ
กุศลกรรมทั้งหลายที่เคยสั่งสมไว้แล้วในกาลก่อน ฯลฯ
ออกจากฌาน พิจารณาฌาน ฯลฯ
บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะกระทำจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม และโลภะ ให้เป็นอารมณ์อย่างหนัก
แน่น ครั้นกระทำจักษุเป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว ราคะ
ที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น ทิฏฐิ ย่อมเกิดขึ้น.
6. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตต-
ธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย

มีอย่างเดียว คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่

เพราะกระทำจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถวิปปยุตต-
ธรรม และโลภะ ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วย
โลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ย่อมเกิดขึ้น.
7. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม
เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย

มีอย่างเดียว คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่
เพราะกระทำขันธ์ทั้งหลาย ที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตต-
ธรรม และโลภะ ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัม-
ปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
พึงถามถึงมูล (วาระที่ 8)
เพราะกระทำขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตต-
ธรรม และโลภะให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น โลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตต-
ธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
พึงถามถึงมูล (วาระที่ 9)
เพราะกระทำขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตต-
ธรรม และโลภะให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วย
โลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ย่อมเกิดขึ้น.

4. อนันตรปัจจัย


[549] 1. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตต-
ธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย